Buddhist Study   จากพระไตรปิฎก: กลุ่มคำสอนว่าด้วยความแก่
ขุททกนิกาย  ขุททกปาฐะ   ธรรมบท  อุทาน
อิติวุตตกะ  ธัมมปทคาถา   ชราวรรค
   

 

 

 

home

ปัญหาถาม-ตอบ

หนังสือธรรมะ

พระไตรปิฎก

อ่านหนังสือธรรมะ


 
จะ
มัวร่าเริงยินดีอะไรกัน ในเมื่อโลกที่อยู่อาศัยถูกไฟไหม้ลุกโพลงอยู่ตลอดเวลา   ท่านทั้งหลายถูกความมืดปกคลุมอยู่ ทำไมจึงไม่แสวงหาประทีป

ท่านจงดูอัตภาพที่กรรมสร้างมาอย่างวิจิตร   เต็มไปด้วยแผล   ประกอบด้วยกระดูกสามร้อยท่อน   กระสับกระส่าย ท่านบุคคลใฝ่หา   ไม่มีความยั่งยืนมั่นคง

รูปนี้คร่ำคร่าแล้ว เป็นรังแห่งโรค ผุพัง กายของตนเปื่อยเน่าแล้วจะแตกสลายไป   เพราะชีวิตมีความตายเป็นที่สุด

กระดูกเหล่าใดที่เขาไม่ปราถนา   เหมือนน้ำเต้าในฤดูร้อน มีสีเหมือนนกพิราบ   จะยินดีไปทำไมเพราะเห็นกระดูกเหล่านั้น

ร่างกายนี้ถูกกรรมสร้างขึ้นให้เป็นเมืองแห่งกระดูก ฉาบทาด้วยเนื้อและเลือด   เป็นที่รวมลงแห่งความแก่ ความตาย ความถือตัว และความลบหลู่

ราชรถอันวิจิตรย่อมคร่ำคร่าได้   ร่างกายก็คร่ำคร่าได้ แต่ธรรมของสัตบุรุษไม่มีวันคร่ำคร่า   สัตบุรุษย่อมสนทนากับสัตบุรุษ

บุรุษผู้เล่าเรียนมาน้อยนี้   ย่อมแก่เหมือนโคถึก   ย่อมงอกงามแต่เนื้อหนัง   แต่ปัญญาไม่งอกงาม

เรา (พระผู้มีพระภาคเจ้า) แสวงหานายช่างผู้สร้างเรือน (คือตัณหา)  เมื่อไม่พบ จึงต้องเกิดแล้วเกิดอีกนับชาติไม่ถ้วน   การเกิดบ่อยๆเป็นทุกข์    แต่บัดนี้ได้พบแล้ว ท่านจะไม่มีโอกาสสร้างเรือนได้อีก   เราหักซี่โครงท่านแล้ว ยอดเรือนเราก็รื้อเสียแล้ว   จิตของเราได้บรรลุนิพพานอันอะไรปรุงแต่งไม่ได้ หมดสิ้นตัณหาเสียแล้ว

คนโง่ไม่ประพฤติพรหมจรรย์   ไม่หาทรัพย์ไว้ในคราวเป็นหนุ่ม   ย่อมซบเซาเหมือนนกกระเรียนแก่   ซบเซาอยู่บนเปือกตมที่


home   ปัญหาถาม-ตอบ    หนังสือธรรมะ   
พระไตรปิฎก   อ่านหนังสือธรรมะ

หมายเหตุ:  คัดลอก/ย่อความ จาก "พระไตรปิฎกสำหรับเยาวชน"   

Click Here!

 



 

tha01001rez300.JPG (6372 bytes)